top of page
3_Inside-Out.jpg

กิจกรรม Workshop Branding Thailand (Inside Out Soft Power)

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566

ณ ห้อง New Gen Space : Space for All Generations ชั้น 3

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

  1. คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สาขาออกแบบ 

  2. คุณพิชัย ศิริจันทนันท์ บรรณาธิการบริหารสื่อในเครือ BrandAge

  3. คุณทรงกลด บางยี่ขัน บรรณาธิการบริหารและผู้ก่อตั้ง The Cloud 

  4. คุณอัศวิน พานิชวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ของ Creative Juice\ Bangkok และนายกสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก (B.A.D. Association) 

  5. ผศ.ดร.สิรวิชญ์ อิทธิโสภณพิศาล อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ TikToker เจ้าของช่อง DR ICE ที่มีผู้ติดตาม 3 ล้านคน

  6. เยาวชนจากวิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

    • ปิยะพร คงกัน

    • ภัทรนิดา เฉลียวปัญญา

  7. เยาวชนจากคณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 

    • บุณยาพร สายสร้อย

    • ยมลยงยศ อนรรฆจีระพงศ์

  8. เยาวชนจากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการโฆษณาและสื่อสารตราสินค้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

    • ณัฐวดี คําเวียงจันทร์

    • ณัฐกาญจน์ ศิริอุดมเศรษฐ 

    • สิทธิกร นาคทองอินทร์

    • บัณฑิตา กวินวศิน

    • ปภาวรินท์ อัศวะศิริจินดา

  9. เยาวชนจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

    • ธนิษฐ์ พงพิศาลธรรม

กิจกรรม Workshop Branding Thailand (Inside Out Soft Power)

  • ในอดีต ไทยสร้างแบรนด์ของประเทศในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอในโลกปัจจุบัน ไทยจะต้องสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ที่มีความโดดเด่นในสายตาโลกออกไป เช่น ความตลกและความ Emotional ของคนไทย โดยต้องคิดแบบใหม่ ให้ทันบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกหลังดิสรัปชั่น

  • การขับเคลื่อน Thailand as Brand เป็นการสร้างการปรากฎให้โลกเห็นว่าไทยนั่น เท่ เก่ง และฉลาด โดยทุกภาคส่วนต้องเข้าใจความหมาย มีเป้าหมาย มีคู่แข่ง ร่วมกันที่ชัดเจน ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินแคมเปญ Front 100 นำเสนอคนไทย 100 คนสู่สากล

  • การผลักดันธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทยเพื่อให้สร้างแบรนด์ของตัวเองได้ จะต้องไปทั้งระบบไม่ใช่แค่ SME หรือตัวบุคคล แต่สามารถเกิดจากจุดเล็กๆ ตามนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อสร้างพื้นฐานที่จะนำสู่การสร้างสรรค์ในระดับปัจเจกบุคคล

  • การนำเอาความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดวัฒนธรรม และนำเอาเทคโนโลยีมาผนวก พร้อมทั้งพัฒนาการศึกษา จะเป็นจุดสำคัญในการขับเคลื่อน Soft Power ไทย โดยจะต้องมีการสื่อสารและเปิดโอกาสให้เยาวชนเข้ามาร่วมนำเสนอโครงการหรือแนวคิดต่างๆ

 

 

#youthincharge #youthpowerขับเคลื่อนsoftpower #softpower #youthinchargesoftpowerambassador

การเสวนา Youth In Charge Talk : Soft Power ไทย ไปอย่างไรต่อ

ในหัวข้อ “การพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรี T-Pop สู่สากล"

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566

ณ ห้อง New Gen Space : Space for All Generations ชั้น 3

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)

ผู้ร่วมเสวนา

  1. ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ นักประพันธ์ไทยเพลงคนแรกที่ได้รางวัล The Charles Ives Awards สาขาการประพันธ์เพลง (Charles Ives Fellowship) โดย American Academy of Arts and Letters ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรี  ปี 2550 และคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

  2. คุณพงศ์สิริ เหตระกูล ผู้บริหารค่ายเพลง NO1R ที่ผลักดัน T-Pop DNA ไทย ผู้บริหาร NYLON Thailand และTimeOut Bangkok สื่อแฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับสากล หนึ่งในผู้จัดเทศกาลดนตรีใจกลางเมือง Siam Music Festival และหนึ่งในคณะอนุกรรมการ สาขาดนตรี ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

  3. คุณปิยะพงษ์ เล็กประยูร (โปเต้ วง MEAN) ศิลปินและผู้บริหารค่ายเพลง Kiddo Records

  4. คุณอัษฎกร เดชมาก (AUTTA)  Rapper ผู้สร้างสรรค์ศิลปะผ่านเสียงเพลงเพื่อสะท้อนตัวตนและสังคม

  5. คุณโรจณัฐ เหล่ารุ่งเรืองชัย ตัวแทนเยาวชนจาก Youth In Charge นักศึกษาดุริยางคศาสตร์เอกวิชาการประพันธ์ดนตรี น้องใหม่ที่เริ่มเข้าสู่วงการดนตรี 

 

การพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรี T-Pop สู่สากล

  • สิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมดนตรีคือต้องทำให้ศิลปินและการเล่นดนตรี เป็น “อาชีพ” ที่เลี้ยงชีพได้จริง จึงจะก่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อได้ และมีระบบที่รองรับ เช่น มีสวัสดิการ มีการสนับสนุนการผลิตผลงานและตลาด ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาโครงสร้างเพื่อรองรับศิลปินที่มีตลาดในต่างประเทศ รวมทั้งควรมีระบบดูแลศิลปินที่เพิ่งเริ่มต้นและยังไม่ประสบความสำเร็จให้สามารถเลี้ยงชีพและสร้างสรรค์ผลงานได้

  • ในระหว่างการศึกษาควรมีการสร้างเส้นทางอาชีพให้กับนักศึกษา เช่นการร่วมกับค่ายเพลงเพื่อทำการเรียนการสอนให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม ให้ความรู้ด้านธุรกิจ การจัดการ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี

  • จุดเด่นของดนตรีไทยคือความมันส์ ความสนุกสนาน ซึ่งควรมีการเลือก “หัวหอก” ประเภทดนตรี ศิลปิน หรือวง ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นตัวจุดฉนวนในการขับเคลื่อน T-Pop แล้วเชื่อมกับสิ่งที่ไทยกำลังเป็นกระแส เช่น ซีรีส์วาย และบูรณาการไปอุตสาหกรรมอื่นทั้ง ภาพยนตร์ ซีรีส์ และเกมส์

  • ควรมีการสร้างมาตรฐานของดนตรีและบุคลากร เพื่อยกระดับราคาและคุณภาพของผลงาน นอกจากนี้การสอนศิลปะในโรงเรียนควรให้ความสำคัญในมิติของการชื่นชม (Art Appreciation) ซึ่งจะส่งผลต่อความนิยม ความต้องการซื้อของผู้บริโภค ตลอดจนการแตกแขนงสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ก่อให้เกิดเห็นการความสำคัญของศิลปินและสนับสนุนลิขสิทธิ์

  • ควรมีการเชิญผู้จัดเทศกาลดนตรีจากต่างประเทศมาร่วมจัดเทศกาล ร่วมงานในไทย กับศิลปินไทย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างการเข้าถึง และการตระหนักรู้ถึงศิลปินไทยในแวดวงต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสที่จะช่วยพัฒนาและยกระดับศิลปินไทยต่อไป

#youthincharge #youthpowerขับเคลื่อนsoftpower #softpower #youthinchargesoftpowerambassador

bottom of page