Diversity, Drive the Festival

แคมเปญ “Diversity, Drive the Festival” มุ่งเน้นการยกระดับและผลักดันอุตสาหกรรมเฟสติวัลของไทยที่มีศักยภาพสูง ไปสู่การเป็น Creative Festival ที่ได้รับความสนใจในระดับโลก ผ่านการผสมผสานความงดงามของวัฒนธรรมและประเพณีไทยอันเป็นเอกลักษณ์กับเทคโนโลยี รวมถึงกิจกรรมสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น

1/2

แคมเปญนี้มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเทศกาลน่าสนใจตลอดทั้งปี โดยยกระดับเทศกาลไทยให้มีความน่าสนใจและทันสมัยในระดับสากล อาทิ เทศกาลลอยกระทง ที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี AR หรือ MR มาช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น การลอยกระทงออนไลน์ หรือการใช้โดรนแทนการลอยโคม เพื่อช่วยลดปัญหาขยะและมลพิษ นอกจากนี้ยังอาจมีการจัดเวทีเสวนาที่เน้นย้ำความสำคัญของสายน้ำ เชื่อมโยงกับแนวคิดด้านความยั่งยืน (Sustainability) ทำให้เทศกาลลอยกระทงกลายเป็นเทศกาลที่สื่อถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่

ตัวอย่างเทศกาลที่กล่าวไปข้างต้น จึงถือเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยที่จะสร้างภาพลักษณ์เป็นต้นแบบของเทศกาลที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายเการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งสามารถดึงดูด ทั้งผู้เข้าร่วมงานและสื่อจากทั่วโลกได้อย่างดี นอกจากนี้ แคมเปญนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศของเทศกาลที่ดีที่ไม่ใช่แค่ในด้านวัฒนธรรมและประเพณีเท่านั้น แต่รวมไปถึงการพัฒนาระบบต่าง ๆ อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น ระบบการคมนาคม โรงแรม การบริการ ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งเทศกาล ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับการจัดเฟสติวัลอย่างครอบคลุมและทั่วถึง เพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางของงานเทศกาลระดับโลก ไม่เพียงแต่คุณค่าของวัฒนธรรมและประเพณีไทยแต่ครอบคลุมความพร้อมในทุกมิติที่สามารถสร้างประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่คนจากทั่วโลกได้จริง

นี่คือ 1 ใน 8 กลุ่มเยาวชนจาก 28 สถาบันการศึกษา ที่นำเสนอ Branding Thailand by Youth ภายใต้โครงการ Youth in Charge Creative Career Academy

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

Diversity, Drive the Festival presented by

Mystic Mingle

แคมเปญ “Mystic Mingle” มุ่งเน้นการยกระดับและผลักดันธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของคนไทยให้กลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ของประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้าถึงวัฒนธรรมความเชื่อในมุมมองใหม่ ๆ ผลักดันศักยภาพในมิติดังกล่าวไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้จริง

1/2

ขับเคลื่อนผ่านการสร้าง Community ของกลุ่มคนที่มีความเชื่อและความศรัทธาที่หลากหลายและการจัด Lifestyle Festival ตลอดทั้งปี โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ 1) ต้นปี ช่วงเวลาแห่งการบอกลาปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ เชื่อมโยงกับความเชื่อเกี่ยวกับการเริ่มต้นใหม่และการเสริมสิริมงคล 2) กลางปี ช่วงเวลาแห่งการทบทวนชีวิตระหว่างปี ความสับสนในชีวิต และความต้องการค้นหาความเชื่อใหม่ ๆ เพื่อให้ชีวิตดียิ่งขึ้น และ 3) ปลายปี ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลสำคัญ อย่างคริสต์มาสและฮาโลวีน ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับความเชื่อและความกลัว

ภายในเทศกาลนี้จะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ อาทิ

1) Talk Show แลกเปลี่ยนมุมมองด้านความเชื่อ

2) Workshop วัตถุมงคลและเครื่องราง

3) Faith Exhibition สำหรับคนที่อยากค้นหาความเชื่อใหม่ ๆ หรือคนที่กำลังสับสนว่าควรเชื่อสิ่งใด

4) ตลาดขายของเกี่ยวกับความเชื่อต่าง ๆ

5) กิจกรรมแต่งคอสเพลย์และพื้นที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวเป็นผีไทย หรือการประกวดผลงานศิลปะ และ

6) การแสดงดนตรี ผ่านการเชิญศิลปินหรือวงดนตรีหน้าใหม่มาแสดงภายในงาน

“เปลี่ยนมุมมองเรื่องความกลัวและความเชื่อให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ น่าค้นหา สนุกกับเสน่ห์ทางความเชื่อโดยไม่ต้องงมงาย”

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

Mystic Mingle presented by

Local Products as Hidden Gems

แคมเปญ “Local Products as Hidden Gems” มุ่งเน้นการยกระดับคุณค่าของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ผ่านการตลาดเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้แอพพลิเคชันที่ชื่อว่า “ไก่ฟ้า” แพลตฟอร์มในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และดึงดูดนักท่องเที่ยว ผ่านแนวคิดที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ คือ Local Product, Local Tourism และ Local Character

S__148955251_0

1/2

Local Product ส่งเสริมการใช้กลยุทธ์การสร้างเรื่องราว (Storytelling) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในท้องถิ่น ผ่านภาพเคลื่อนไหวและเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสนใจทั้งตัวสินค้าและชุมชนแหล่งผลิต นำไปสู่การเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ตามรอยสินค้า ซึ่งไม่เพียงแต่จะเพิ่มยอดขายสินค้าแต่ยังช่วยเชื่อมโยงประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่

Local Tourism ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นถึงการเชื่อมโยงสินค้าเข้ากับการท่องเที่ยวภายในแหล่งผลิตสินค้าของจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่จะซื้อสินค้า แต่ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวอันงดงามที่อยู่เบื้องหลังสินค้านั้น ๆ

Local Character เป็นการสร้างความสนุกสนานและกระตุ้นความสนใจในระยะยาว ผ่านการสร้างคาแรคเตอร์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศไทย ทั้งหมด 77 ตัว และเชื่อมโยงไปสู่ 77 กิจกรรม (ในรูปแบบเกม) โดยนักท่องเที่ยวสามารถสะสมแต้มจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ และนำไปแลกรับรางวัลเป็นอาร์ตทอยที่ออกแบบมาให้เชื่อมโยงกับคาแรคเตอร์ของจังหวัดนั้น ๆ

แคมเปญนี้จึงไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและยอดขายของสินค้าท้องถิ่น แต่ยังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวผ่านการเล่นเกม การสะสมแต้ม และของรางวัลที่น่าประทับใจ สร้างความทรงจำที่ผูกพันกับท้องถิ่นไทยอย่างยั่งยืน

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

Local Products as Hidden Gems presented by

Fusion Fashion

แคมเปญ “Fusion Fashion” มุ่งเน้นการต่อยอดและยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย โดยการผสมผสานวัฒนธรรมและความเป็นไทยกับแฟชั่นสากล ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และดึงดูดความสนใจจากต่างชาติผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ ภาพยนตร์ ละคร อีเวนต์ รวมถึงเทรนด์แฟชั่นที่ได้รับอิทธิพลจากดีไซเนอร์ชื่อดังและการแต่งกายของศิลปินไทย

1/2

แคมเปญนี้ต้องการดึงดูดเยาวชนกลุ่ม Generation Z ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนมากถึง 26% ของประชากรโลก ด้วยแนวคิด “ผ้าไทยที่วัยรุ่นแคร์ เห็นแล้ว wear แน่นอน” ผ่านการขับเคลื่อนโครงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่

เพื่อนำทักษะการทอผ้าของชุมชนในแต่ละจังหวัดมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบที่ทันสมัยของนักศึกษา ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่เพื่อร่วมกันพัฒนารูปแบบผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย เสริมด้วยการใช้กลยุทธ์การสร้างเรื่องราว (Storytelling) ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ทั้งในเรื่องของความเป็นชุมชนท้องถิ่น การกระจายรายได้ และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และตรงกับความต้องการของตลาดโลก

รวมถึงสร้างการ Collaboration ระหว่างแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำระดับโลกกับผ้าไหมและผ้าทอของไทยที่ได้รับการพัฒนาในแคมเปญ เพื่อให้แฟชั่นไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ผ้าไหมและผ้าทอของไทยที่ผ่านการพัฒนาจากโครงการนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ และของตกแต่งบ้าน สะท้อนให้เห็นการอนุรักษ์ผ้าไทยและสนับสนุนภูมิปัญญาดั้งเดิมให้อยู่สืบไปผ่านการนำมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

Fusion Fashion presented by

Spectrum of Thailand

มุ่งนำเสนอการยกระดับอาหารไทยที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความหลากหลาย ผ่านแนวคิดหลัก คือ “DEI”

ได้แก่ Diversity (ความหลากหลาย), Equity (ความเสมอภาค), และ Inclusion (การยอมรับความแตกต่างหลากหลาย) เพื่อนำเสนอ พัฒนา และต่อยอดธุรกิจร้านอาหารที่สะท้อนความหลากหลายทางอาหารที่มีคุณภาพและความยั่งยืน โดยดำเนินการผ่าน Spectrum Platform ที่เป็น Ecosystem Platform ครบวงจรในรูปแบบเว็บแอพพลิเคชันเชื่อมโยงร้านอาหารกับผู้บริโภคและโปรโมต

ร้านอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก

1/2

องค์ประกอบหลักของ Spectrum Platform ได้แก่

1) DEI Food Empowerment การคัดเลือกร้านอาหารรายย่อยและ Street Food ที่มีคุณสมบัติตามหลัก DEI เข้าสู่แพลตฟอร์ม จากนั้นจะมีการประเมินและให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับปรุงร้านอาหาร ทั้งในด้านความหลากหลาย คุณภาพ และสุขอนามัย เพื่อเสริมสร้างจุดแข็งตามหลัก DEI ให้ชัดเจนมากขึ้น

2) FOOD เจอนี่! Channel ช่องทางโปรโมตร้านอาหารรายย่อยและ Street Food บนแพลตฟอร์ม ผ่านการทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมบันเทิง เพื่อช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับแนวคิด DEI ให้แก่ร้านอาหารและผู้บริโภค

3) DEI Food Choices ช่องทางที่ผู้บริโภคสามารถปักหมุดและค้นหาร้านอาหารที่กระจายอยู่ทั่วประเทศผ่านแพลตฟอร์ม พร้อมข้อมูลสำคัญ อาทิ เรื่องราวของวัตถุดิบ หรืออาหาร แนวคิดหรืออุดมการณ์ของผู้ประกอบการ เมนูแนะนำ ราคา และสามารถรีวิวอาหารและเครื่องดื่มได้

แคมเปญนี้มุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารทั้งระบบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสมราคา

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ร้านอาหารและวัฒนธรรมอาหารของไทยสามารถสื่อสารเรื่องราวที่หลากหลายผ่านสื่อต่าง ๆ โดยคาดหวังว่าแคมเปญนี้จะสามารถปรับปรุงภาพลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายและเปิดกว้าง

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

Spectrum of Thailand presented by

Be Free

เป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ "ชาติแห่งความเป็นอิสระ" ที่มีเสรีภาพในการแสดงออกด้านความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพในระดับโลก

1/2

โดยแคมเปญนี้มุ่งเน้นไปที่การเชื่อมโยงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยกับแนวคิดของเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยต่างแสวงหาอย่างต่อเนื่อง แคมเปญนี้มุ่งส่งเสริมอิสระในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์เพื่อเสริมพลังให้เยาวชนได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ พัฒนาตนเอง และเติบโตในสายอาชีพที่มุ่งหวัง

แคมเปญนี้จะดำเนินการในสองส่วนหลัก ดังนี้

1)การสนับสนุนการศึกษา STEAM แคมเปญ Be Free เสนอว่าควรมีการขับเคลื่อนร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขยายโครงการหลักสูตร STEAM (Science-Technology-Engineering-Arts-Maths) ให้เป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยความเชื่อว่าเยาวชนไทยทุกคนมีศักยภาพและควรได้รับโอกาสในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ หลักสูตร STEAM ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ผ่านการบูรณาการศาสตร์ทางด้านศิลปะ ซึ่งสามารถปลูกฝังแนวคิดที่ช่วยพัฒนาเยาวชนให้มีความรอบรู้และสามารถต่อยอดสู่การประกอบอาชีพในอนาคต

2) เทศกาล Creative Festival เทศกาลที่ส่งเสริมการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยอย่างเป็นอิสระในรูปแบบขบวนพาเหรดรอบเมืองที่เปิดโอกาสให้ศิลปิน นักสร้างสรรค์ ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ นักศึกษา คนทำงาน และผู้คนทั่วไปได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานและแสดงศักยภาพในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงบูรณาการอุตสาหกรรมดนตรี อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เข้ามาร่วมสร้างสีสันภายในงาน เทศกาลนี้จะช่วยผลักดันให้ศิลปินและนักออกแบบไทยได้แสดงศักยภาพและเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยคาดหวังว่าจะสามารถปรากฏการณ์ใหม่ของประเทศไทย คล้ายกับเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจและปรับภาพลักษณ์ของประเทศให้เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางด้านศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก ดึงดูดความสนใจจาก Creative talent จากทั่วทุกมุมโลกให้เข้ามาศึกษา ทำงาน และลงทุนในประเทศไทย

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

Be Free presented by

สบาย สบาย

เป็นการนำเสนอประเทศไทยผ่านแนวคิดของความสบายที่แฝงอยู่ในทุกองค์ประกอบของความเป็นไทย 3 มิติสำคัญ ได้แก่ สบายกาย สบายใจ และสบายท้อง

1/2

ความสบายกาย นำเสนอผ่านการนวดแผนไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการนวดแบบมาตรฐานที่ให้ความผ่อนคลายและราคาเข้าถึงได้ หรือการนวดในระดับพรีเมียมที่เพิ่มมูลค่าและสามารถต่อยอดไปสู่ระดับโลก

ความสบายใจ ความสบายใจถูกสะท้อนในหลายมิติ ได้แก่ 1) สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ทะเล แม่น้ำ ภูเขา เกาะ โฮมสเตย์ และชุมชนท่องเที่ยว ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดธรรมชาติและสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น กิจกรรมเหล่านี้ช่วยบำบัดจิตใจให้ผ่อนคลาย 2) ลักษณะนิสัยคนไทย ที่รักความเป็นอิสระ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ยิ้มแย้มแจ่มใส และพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยมิตรภาพเสมอ 3) ที่พึ่งทางจิตใจ ผ่านวัดวาอารามและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งช่วยเสริมความสิริมงคล สร้างความอิ่มบุญ รวมถึงการได้สัมผัสกับบรรยากาศทำให้สงบจิตสงบใจ

ความสบายท้อง อาหารไทยเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและนิสัยของคนไทย อาหารไทยส่วนใหญ่ง่ายต่อการรับประทาน ไม่ซับซ้อน มีรสชาติที่คุ้นเคย และทำจากวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ อาหารไทยยังสามารถหาทานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถอิ่มท้องได้ทุกเวลา

แคมเปญนี้สะท้อนให้เห็นว่าความสบายแบบไทย ๆ สามารถเชื่อมโยงและประยุกต์ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นและตอบโจทย์ผู้คนจากทั่วโลกอย่างแท้จริง

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

สบาย สบาย presented by

Go with the folks

การนำเสนอประเทศไทยผ่านความมีมิตรไมตรี ความเอื้อเฟื้อ และจิตใจบริการของคนไทย

โดยชื่อแคมเปญเกิดจากการผสมคำว่า ‘Go with the flow’ ที่หมายถึงความลื่นไหล ไม่เร่งรีบ กับคำว่า ‘folks’ ซึ่งหมายถึงพวกพ้องหรือความเป็นพื้นบ้าน Go with the Folks จึงสื่อถึงการเดินทางไปกับผู้คนในท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ โดยดำเนินภายใต้สโลแกน "Live Like Local" ที่มุ่งเน้นการให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสถานที่

และผู้คนแบบธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง ให้ประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมาย

1/2

แคมเปญนี้ดำเนินงานผ่านกรอบการทำงานที่เรียกว่า “CATS” (แมว) หรือการนำเสนอรูปแบบประสบการณ์ในชุมชน ได้แก่

1) Culture การเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน

2) Accommodation ที่พักที่มีการจัดการโดยคนท้องถิ่นแทนที่จะพักในโรงแรมขนาดใหญ่

3) Transportation บริการขนส่งสาธารณะ เดินเท้า หรือขี่จักรยานเพื่อสำรวจพื้นที่

4) Street food การรับประทานอาหารท้องถิ่นหรือเรียนรู้การทำอาหารจากคนในพื้นที่

นอกจากนี้ แคมเปญยังเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม MICE (หนู) ซึ่งเน้นการพัฒนาการจัดงานธุรกิจทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติ โดยเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นในชุมชน ได้แก่

1) Meetings การประชุมสัมมนาระดับองค์กรหรือศึกษาดูงาน

2) Incentives การจัดการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลแก่พนักงานหรือบุคคลที่ปฏิบัติงานได้ตามเป้าหมายขององค์กร

3) Conventions การประชุมสมาคมวิชาชีพ

4) Exhibitions การจัดแสดงสินค้า

🤝แคมเปญ “Go with the Folks” มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยใช้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในการพัฒนาประสบการณ์ที่น่าสนใจและยั่งยืน ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และสร้างความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะสูญหายในอนาคต เป็นการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนจากการท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์มาเป็นการท่องเที่ยวแบบชุมชนและยั่งยืน

FB : Youth In Charge

IG: youthincharge_th

Go With The Folks presented by